UC CAL ผลิตภัณฑ์ดูแลฟื้นฟูระบบกระดูก และข้อต่อต่างๆ
1.แคลเซียมแอลทรีโอเนต สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าแคลเซียมชนิดอื่นๆเพราะสามารถรักษาคนค่าของแคลเซียมได้ครบถ้วน คือ ช่วยเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรง ยับยั้งการสลายตัวของกระดูกบริเวณข้อต่อและกระดูกอ่อน ช่วยปรับปรุงกระบวนการสร้างเซลล์กระดูกให้แข็งแรงขึ้น
2.แคลเซียม แอลทรีโอเนต ได้รับสิทธิบัตรจากอเมริกาว่า สามารถยับยั้งและป้องกันโรคกระดูกผุหรือกระดูกหักง่าย เนื่องจากมีกระดูกบาง พรุน และข้อเสื่อม โดยได้รับการทดลองและสนับสนุนจากทางการแพทย์ในอเมริกา
แคลเซียมแอลทรีโอเนต สกัดมาจากข้าวโพด เป็นแคลเซียมชนิดที่ละลายน้ำได้ดีมาก สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เกือบ 100% สามารถดูดซึมได้ดีกว่าแคลเซียมคาร์บอเนตถึง 6 เท่า
ผลจากการวิจัย
แคลเซียมแอลทรีโอเนตกับผู้สูงอายุ
ซึ่งในงานวิจัยเชิงวิเคราะห์ จากการที่ได้มีการศึกษาผลของการใช้แคลเซียมเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ พบว่าผู้สูงอายุทั้งชายและหญิงมีแนวโน้มที่จะได้รับแคลเซียมจากอาหารลดลงจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะพร่องแคลเซียม และนำไปสู่การเกิดโรคกระดูกพรุน กระดูกหักได้
ผลวิจัย พบว่าการที่ผู้สูงอายุได้รับแคลเซียมที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก และป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน และกระดูกหักได้
ทั้งนี้การเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม ที่ถูกปรับปรุงให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย ช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับปริมาณแคลเซียมที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
แคลเซียมแอลทรีโอเนต สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าแคลเซียมชนิดอื่นๆ เพราะสามารถรักษาคุณค่าของแคลเซียมได้ครบถ้วน ช่วยเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรง ยับยั้งการสลายตัวของกระดูก ช่วยปรับปรุงกระบวนการสร้างเซลล์กระดูกให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของแคลเซียมแอลทรีโอเนต
* เป็นแคลเซียมที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มวลกระดูกน้อย
*เสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูก
* ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน และโรคข้อเสื่อม
* สามารถดูดซึมผ่านเซลล์ โดยไม่ต้องอาศัยวิตามินดี
* สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าแคลเซียมอื่นๆถึง 9 เท่า
* กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกระดูก และกระดูกอ่อน รวมทั้งสร้างน้ำในไขข้อ
* สามารถดูดซึมได้ด้วยตัวเองเป็น passive Transport โดยสามารถดูดซึมได้ด้วยตัวเองถึง 95%
* เป็นแคลเซียมบำรุงกระดูกที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ได้ดีมากกว่าแคลเซียม คาร์บอเนต ถึง 9 เท่า
Calcium L-Threonate คืออะไร ต่างยังไงกับแคลเซียมแบบเดิม?
เพราะว่าร่างกายของมนุษย์เรานั้นไม่สามารถสังเคราะห์แคลเซียมเองได้ จึงจำเป็นเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาตัวช่วยจากการทานสิ่งต่างๆ เช่น อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม หรือไม่ก็ทานแคลเซียมในรูปแบบสกัดเป็นเม็ดฟู่แทน ซึ่งในยุคแรกๆนั้นได้มีการคิดค้นและสกัดออกมาเป็น "แคลเซียมคาร์บอเนต" แต่ยังไงก็ตาม ในปัจจุบันนี้มีคนรักสุขภาพมากมายจึงต้องไม่ควรพลาดที่จะทำความรู้จากกับแคลเซียมตัวใหม่ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่าง "Calcium L-Threonate " แคลเซียมแอลทรีโอเนต
Calcium L-Threonate ( แคลเซียม แอลทรีโอเนต ) คืออะไร กินแล้วได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง
แคลเซียมแอลทรีโอเนต "Calcium L-Threonate" คืออะไร กินแล้วได้อะไรบ้าง
แคลเซียมแอลทรีโอเนตคือแคลเซียมที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีที่สุด "Calcium L-Threonate" ถูกพัฒนาขึ้นมาให้อยู่ในรูปแบบอาหารเสริมและมีส่วนประกอบในยา เพื่อรักษาและป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนเมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น ในอาหารเสริม แคลเซียมแอลทรีโอเนต มีคุณสมบัติที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากถึง 95% เมื่อเทียบกับ แคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งดูดซึมได้ไม่เกิน 15%
อัตราการดูดซึม
Calcium Carbonate ดูดซึมได้เพียง 12% ผลข้างเคียงคือท้องอืด, ท้องผูก ทำมาจากกระดูกสัตว์จึงทำให้ละลายยาก และดูดซึมได้น้อยมาก ทำให้มีโอกาสเกิดการสะสมที่ก่อให้เกิดหินปูน เสี่ยงเป็นโรคนิ่วในไต, เห็นปูนที่เต้านม, เห็นปูนต่อมลูกหมาก
Calcium Citrate แคลเซียมซีเทรด สามารถดูดซึมได้ 50%
ซึ่งทำมาจากนม ต้องทานพร้อมมื้ออาหารเท่านั้น จะทำงานได้ก็ต่อเมื่อมีกรดในกระเพาะเท่านั้น หากดูดซึมไม่หมด มีโอกาสเกิดการสะสม และเกิดหินปูนได้
Calcium L-Threonate แคลเซียมแอลทรีโอเนต สามารถดูดซึมได้ถึง 95% เป็นแคลเซียมที่มีโมเลกุลเล็ก ละลายได้ดี และดูดซึมดีสุด ไม่ทำให้เกิดอาการท้องผูก เป็น passive Transport
สามารถดูดซึมผ่านเซลล์โดยไม่ต้องอาศัยวิตามินดี และสามารถทานตอนท้องว่างได้
ข้อแตกต่างระหว่างแคลเซียมแอลทรีโอะเนต กับแคลเซียมทั่วไป
* แคลเซียมแอลทรีโอเนต *
ดูดซึมเข้าร่างกายได้มากถึง 95%
ไม่จำเป็นต้องเสริมปัจจัยการดูดซึม
โอกาสเกิดการตกค้างในร่างกายน้อยที่สุด
ละลายน้ำได้ดี ทานเวลาไหนก็ได้
* แคลเซียมทั่วไป *
ดูดซึมเข้าร่างกายได้ไม่เกิน 15%
จำเป็นต้องเสริมปัจจัยเพื่อช่วยในการดูดซึม
มีโอกาสตกค้างในร่างกาย
ต้องทานคู่ร่วมกับปัจจัยที่สามารถดูดซึมได้
* สัญญาณเตือน เมื่อร่างกายขาดแคลเซียม มีดังนี้
เป็นตะคริว กล้ามเนื้อกระตุก
ปวดข้อเรื้อรัง หรือข้อฝืดและตึง
ฟันมีปัญหา เช่นฟันโยก สั่นคลอน
เคลื่อนไหวมีเสียง "ก๊อบแก๊บ"
นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย
เลือดหยุดไหลช้าเมื่อมีบาดแผล
มีอาการชา ตามแขน ขา ปลายมือ ปลายเท้า
Type ll
Collagen
ส่งเสริมสุขภาพข้อต่อ ช่วยสนับสนุนระบบการย่อยอาหาร และระบบภูมิคุ้มกัน
Type ll collagen พบใน
กระดูกอ่อน, ข้อต่อ, เยื่อบุผนังลำไส้
Type ll collagen แหล่งอาหารชั้นดี พบในไก่ น้ำต้มซุปกระดูก
คอลลาเจน 5 ชนิดที่น่าสนใจ
คอลลาเจนชนิดที่ 1
พบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย บริเวณผิวหนัง เส้นเอ็น เนื้อเยื่อกระดูก
คอลลาเจนชนิดที่ 2
ช่วยเสริมสร้างกระดูกและข้อต่อ พบมากในกระดูกอ่อน
คอลลาเจนชนิดที่ 3
เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของโครงสร้างอวัยวะภายใน เช่น หลอดเลือด มักพบร่วมกับคอลลาเจนประเภทที่ 1
คอลลาเจนชนิดที่ 4
พบที่เยื่อหุ้มเซลล์ชั้นนอก
คอลลาเจนชนิดที่ 5
พบที่บริเวณรอยต่อระหว่างหนังกำพร้า (Epidermis) กับหนังแท้ (Dermis) และรก
90% ของคอลลาเจนบริเวณกระดูกอ่อนข้อเข่า คือ collagen type 2
ประโยชน์ของคอลลาเจน type 2
แก้อาการปวดเข่า
รักษาข้อเข่าเสื่อม
ได้ผลดีกว่ายา
ดีต่อผู้ออกกำลังกาย
แก้ปวดเข่า
อาการ ปวดเข่า นั้นเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ชัดเจนที่สุดที่บ่งบอกว่าข้อเข่าของเรานั้นกำลังเสื่อม การรับประทานคอลลาเจนเพื่อลดอาการปวดเข่า ( collagen type 2 ) คอลลาเจนไทพ์ทู นั้นสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของส่วนประกอบบริเวณข้อต่อซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวด
จากงานวิจัยของ James P Lugo และคณะเมื่อปี 2013 กับกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 55 คนที่มีสุขภาพดี ไม่มีประวัติของโรคข้อเข่าเสื่อมแต่เริ่มมีอาการปวดข้อจากการใช้งานและการออกกำลังกาย โดยให้กลุ่มหนึ่งรับประทานคอลลาเจนไทพ์ทู 40 มิลิกรัมต่อวัน กลับอีกกลุ่มรับประทานยาหลอก ทุกวันต่อเนื่องเป็นเวลานาน 120 วัน
ผลการทดลองพบว่ากลุ่มที่รับประทานคอลลาเจนไทพ์ทํ มีความยืดหยุ่นของข้อเข่าดีขึ้น และยังช่วยลดอาการปวดข้อที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายได้อีกด้วย
Collagen type 2 จึงจัดได้ว่าเป็นคอลลาเจนแก้ปวดเข่า หรือคอลลาเจนแก้ปวดกระดูกได้เป็นอย่างดี